กู้ยืมเงินโดยมีการคิดดอกเบี้ย ถือเป็นคดีผู้บริโภคหรือไม่

คำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์ที่ 638/2560

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์ โดยตกลงเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ทุกเดือนจนกว่าจำเลยจะนำต้นเงินส่งให้โจทก์ครบตามที่กู้ ครบกำหนดชำระเงินตามสัญญา จำเลยผิดนัด ขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 3 คดีผู้บริโภค หมายความว่า (1) คดีแพ่งระหว่างผู้บริโภคหรือผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้บริโภคตามมาตรา 19 หรือตามกฎหมายอื่น กับผู้ประกอบธุรกิจซึ่งพิพาทกันเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายอันเนื่องมาจากการบริโภคสินค้าหรือบริการ โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงินเพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยเรียกดอกเบี้ยเป็นค่าตอบแทน โจทก์ไม่ได้ประกอบอาชีพปล่อยเงินกู้ โจทก์ไม่ได้ให้กู้ยืมเป็นทางค้าปกติของตน จึงไม่อยู่ในฐานะผู้ให้บริการและไม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 3 และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 3 เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรับผิดในมูลหนี้กู้ยืมจึงไม่เป็นคดีแพ่งระหว่างผู้ประกอบธุรกิจกับผู้บริโภคซึ่งพิพาทกันเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายอันเนื่องมาจากการบริโภคสินค้าหรือบริการ ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 3 (1) ทั้งไม่เข้าเกณฑ์เป็นคดีผู้บริโภคตามมาตรา 3 (2) ถึง 3 (4) จึงไม่เป็นคดีผู้บริโภค

 

คำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์ที่ 21/2559

โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยชำระเงินตามสัญญากู้อย่างคดีแพ่งสามัญ โดยบรรยายฟ้องมาด้วยว่าโจทก์ไม่ได้ประกอบอาชีพให้กู้ยืมเงินเป็นปกติธุระ แต่ได้มีการคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จำเลยให้การต่อสู้คดีและว่าคดีนี้เป็นคดีผู้บริโภค ซึ่งศาลได้วินิจฉัยว่าเป็นคดีผู้บริโภค เนื่องจากมีการคิดดอกเบี้ยเป็นค่าตอบแทน แม้โจทก์จะไม่มีอาชีพให้กู้ยืมเงินก็ตาม

แม้โจทก์ไม่มีอาชีพให้กู้ยืมเงิน แต่โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเป็นค่าตอบแทน โจทก์จึงเป็นผู้ประกอบธุรกิจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 3 และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 3 ส่วนจำเลยผู้กู้เป็นผู้บริโภคตามบทบัญญัติดังกล่าว คดีนี้เป็นคดีแพ่งระหว่างผู้ประกอบธุรกิจกับผู้บริโภคซึ่งพิพาทกันเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายอันเนื่องมาจากการบริการตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 3 (1) จึงเป็นคดีผู้บริโภค

 

ข้อสังเกต

คำว่าดอกเบี้ยในคำวินิจฉัยนี้หมายถึง ดอกเบี้ยที่คู่สัญญาตกลงกันไว้ในสัญญากู้ยืมเงินเท่านั้น ไม่ได้หมายความรวมถึงดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัด อันเป็นดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นโดยผลของกฎหมาย ซึ่งก็คือในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 7

 

รู้กฎหมายกับทนายความ